พระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล
การที่พ่อแม่ครูจารย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ให้ความเมตตาคณะศิษย์และชาวบ้านทั้งที่อยู่ใกล้และอยู่ไกลอันนำมาซึ่งความปลาบปลื้มเป็นสุขแก่ทุกดวงใจ
“ด้วยสำนึกในพระสังฆคุณอันหาที่สุดประมาณมิได้ที่องค์ท่านเมตตาอบรมสั่งสอนคุณงามความดีทุกสิ่งทุกประการ สอนกรรมฐานทางสู่มรรค ผล นิพพานอย่างแจ่มแจ้ง ทั้งสงเคราะห์โลกด้านต่างๆ และทั้งช่วยชาติไทยให้พ้นจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ ทำอย่างไรเราจึงจะตอบแทนพระคุณขององค์ท่านได้อย่างถูกต้องเหมาะสมที่สุด”
พระอาจารย์โสภา สมโณ คณะศิษย์ และชาวบ้านทั้งหลายจึงปรึกษาร่วมกันแล้วมีความเห็นตรงกันว่าจะสร้างอนุสรณ์ไว้บูชาคุณขององค์หลวงตาฯ ให้เป็นอนุสติแก่ชาวพุทธในกาลสืบไป เมื่อคณะศิษย์มีโอกาสได้รับมอบอัฐิธาตุขององค์หลวงตาฯ จากวัดป่าบ้านตาด จักนำมาประดิษฐานไว้บนศาลาวัดแสงธรรมวังเขาเขียวเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการสร้างพระมหาเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิธาตุเป็นการถาวรสืบไป
วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ตัวแทนผู้ประสานงานของวัดแสงธรรมวังเขาเขียวและคณะศิษย์ได้หารือร่วมกันว่า พื้นที่ ส.ป.ก. 4-10 เลขที่ 3019 เจ้าของสิทธิ์ที่ครอบครองตามกฎหมายคือ นายประสิทธิ์ เฉลิมเกียรติ มีพื้นที่ติดกับพื้นที่ของวัดแสงธรรมวังเขาเขียว นายประสิทธิ์ เฉลิมเกียรติ ได้พิจารณาว่าถ้าโอนการครอบครองให้ทางวัดฯ ได้ใช้ประโยชน์ในการสร้างพระมหาเจดีย์เพื่อเทิดทูนและบูชาคุณองค์หลวงตาฯ จะเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่หาค่าประมาณมิได้เพราะจะได้เป็นที่ สักการบูชาของคณะศิษย์และชาวพุทธทั่วไป นายประสิทธิ์ เฉลิมเกียรติ และครอบครัวจึงได้แสดงเจตนาที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมเพื่อยืนยันการตัดสินใจและให้วัดแสงธรรมวังเขาเขียวเข้าครอบครองทำคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาแทนตนเอง โดยทำบันทึกเป็นเอกสารเพื่อให้วัดแสงธรรมวังเขาเขียวใช้เป็นหลักฐานประกอบคำขอทำเรื่องกับสำนักพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔ ท่านผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านบุตะโกเมืองใหม่ และตัวแทนผู้ประสานงานของวัดฯ พร้อมทั้งชาวบ้านได้ประชุมหารือการจัดทำประชาคมร่วมกันภายในวัดแสงธรรมวังเขาเขียว โดยข้อสรุปการทำประชาคม ทุกท่านยืนยันเจตนาเดิมที่จะสร้างอนุสรณ์ คือพระมหาเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิธาตุขององค์หลวงตาฯ และเป็นเสมือนสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคณะศิษย์และชาวพุทธทั่วไป เพื่อการสร้างคุณงามความดีตามรอยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และตามคำสอนขององค์หลวงตาฯ เพื่อเป็นอนุสรณ์แทนองค์หลวงตาฯ เสมือนว่ายังอยู่คู่กับชาวอำเภอวังน้ำเขียวตลอดไป และเพื่อความเป็นสิริมงคลของทุกท่านที่ได้มาสักการบูชาหรือปฏิบัติบูชาที่วัดแสงธรรมวังเขาเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
ลักษณะสถานที่ก่อสร้างพระมหาเจดีย์
อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นประตูทางเข้า-ออกสู่ภาคอีสาน โดยสถานที่ที่เลือกนี้เป็นแปลงที่ติดกับแปลงหมายเลขที่ 54/2(8) ของวัดแสงธรรมวังเขาเขียว คือ ตามที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ระบุในทะเบียนจัดสรรที่ดินให้วัดบุตะโกเมืองใหม่ (วัดแสงธรรมวังเขาเขียว) ครอบครองใช้ทำประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนา พื้นที่ดังกล่าวที่เตรียมงานก่อสร้างพระมหาเจดีย์นี้มีภูมิทัศน์เหมาะกับการสร้างพระมหาเจดีย์เพราะมีลำห้วยดอกบัวล้อมรอบสามด้าน เป็นเนินเดินปากทางเข้าวัดที่มีความสูงพอดี จะทำให้พระมหาเจดีย์เกิดความสวยงาม โดดเด่น และมองเห็นได้ในระยะไกล ในเขตพื้นที่ดังกล่าวไม่มีไม้ประเภทหวงห้าม มีเฉพาะไม้ประเภทให้ผล เช่นมะม่วง ชมพู่ มะไฟ ความเห็นชุมชนรับรองว่ากิจการที่ขอใช้ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยผ่านที่ประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล
วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔ เรื่องขออนุญาตใช้ที่ดินเพื่อก่อสร้างพระมหาเจดีย์ของวัดแสงธรรมวังเขาเขียว ได้ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาแล้ว ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๔ ตามที่ขออนุญาตนั้น คือ ที่ดินเขตปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก. 4-10 ระวาง ส.ป.ก. / กลุ่มที่ 54 แปลงเลขที่ 7 หรือตามโฉนด / น.ส. 3 ก / น.ส. 3 เลขที่สารบัญทะเบียนที่ดิน 3019 เล่มที่ 31 หน้าที่ 19 ที่ดินตั้งอยู่หมู่ที่ .19. ตำบล/แขวง วังน้ำเขียว อำเภอ/เขต วังน้ำเขียว จังหวัด นครราชสีมา จำนวนเนื้อที่ 13 ไร่ 2 งาน 17 ตารางวา มีอาณาเขตโดยสังเขปดังนี้
ทิศเหนือ จด ลำห้วย ที่ดินแปลงหมายเลข 54 / 2
ทิศใต้ จด ลำห้วย
ทิศตะวันออก จด ที่ดินแปลงหมายเลข 54 / 5
ทิศตะวันตก จด ที่ดินแปลงหมายเลข 54 / 4
วัตถุประสงค์ในการก่อสร้างพระมหาเจดีย์
๑. เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒. เพื่อบรรจุพระอัฐิธาตุ และอัฏฐบริขารของพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
๓. เพื่อการศึกษาและปฏิบัติตามพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และตามคำสอนของพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
๔. เพื่อเป็นอนุสรณ์แทนองค์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)เสมือนว่ายังอยู่คู่กับชาวอำเภอวังน้ำเขียวตลอดไป
๕. เพื่อความเป็นสิริมงคลของคนในชุมชนและคนทั่วไป ได้มาสักการบูชาหรือปฏิบัติบูชาที่วัดแสงธรรมวังเขาเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
๖. เพื่อเป็นปูชนียสถานสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรสืบไป
ลักษณะและประโยชน์ใช้สอย
ลักษณะรูปแบบขององค์เจดีย์จะประกาศให้ผู้พบเห็นรับทราบเองว่าพระมหาเจดีย์องค์นี้ คือ สัญลักษณ์แทนองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน โดยเป็นทั้งพระธาตุเจดีย์
๑.พระมหาเจดีย์มีรูปทรงดอกบัว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของฐาน ๗๔ เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดฉัตร ๖๕ เมตร มีถนนโดยรอบ
๒.ห้องใต้ฐานปฏิบัติธรรม พื้นที่ ๑,๑๐๐ ตารางเมตร เป็นที่ปฏิบัติธรรมและประกอบศาสนกิจ มีระเบียงกว้าง ๗.๑๐ เมตรใช้เป็นที่เดินประทักษิณของอุบาสก-อุบาสิกา
๓.ห้องโถงเก็บพระบรมสารีริกธาตุและอัฐิธาตุ ทรงครึ่งวงกลมคล้ายระฆังคว่ำเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน ๑๘ เมตร มีระเบียงดอกบัวกว้าง ๗.๔๐ เมตรใช้เป็นที่เดินประทักษิณของพระภิกษุ-สามเณร
ระยะเวลาดำเนินงาน
กำหนดแผนงานก่อสร้าง เริ่มวางศิลาฤกษ์วันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ระยะเวลาที่ใช้ในการก่อนสร้างโดยประมาณ ๒๘-๓๖ เดือน หรือจนกว่าจะแล้วเสร็จ
อานิสงค์ของการสร้างพระมหาเจดีย์
การสร้างพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรืออัฐิธาตุของบุคคลที่ควรบูชาเป็นการสร้างมหามงคลให้ตนเองอย่างสูงสุด เมื่อสิ้นชีพย่อมไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรมและบรรลุมรรคผลนิพพานได้ง่าย การมีส่วนร่วมสร้างพระเจดีย์ด้วยการร่วมบริจาคเองก็ดีด้วยการชักชวนผู้อื่นก็ดี หากทำด้วยความเลื่อมใสศรัทธาย่อมได้รับอานิสงค์มากมาย ดังเรื่องอดีตของพระสุธาปิณฑิยเถระ ผู้ใส่ก้อนปูนขาวเพียง ๑ ก้อนลงสู่ในช่องแผ่นอิฐที่มหาบันกำลังก่อสร้างบนเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยจิตใจเลื่อมใสศรัทธายิ่ง ผลบุญนั้นดลบันดาลให้ท่านเกิดเสวยสุขในสวรรค์และโลกมนุษย์ถึง ๙๔ กัปป์ จนถึงสมัยพระสมณโคดม พระพุทธเจ้าองค์นี้ ท่านได้ออกบวชและสำเร็จเป็นพระอรหันต์
เมื่อใดพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธามานมัสการและเวียนเทียนรอบพระเจดีย์ บุญกุศลนี้ย่อมเกิดแก่เจ้าของผู้ร่วมบริจาคทรัพย์และแรงงานที่สร้างพระมหาเจดีย์องค์นี้